แม้ตลาดคริปโตจะเงียบเหงาไปบ้างในช่วงนี้ แต่ Ethereum กลับซุ่มพัฒนาหลายสิ่งที่อาจกลายเป็น “เชื้อไฟแห่งขาขึ้นครั้งใหม่” ของทั้ง ecosystem
บทความนี้จะพาคุณไปดู 12 เหตุผลที่ ETH ยังน่าจับตามองในฐานะสินทรัพย์ระยะกลางถึงยาว แม้ในช่วงที่ sentiment โดยรวมจะดูซบเซาก็ตาม
✅ 1. EIP-7702: UX ที่เป็นมิตรขึ้นอีกระดับ
หนึ่งในข้อเสียสำคัญของ Ethereum คือ “UX ที่ซับซ้อน” แต่ EIP-7702 ซึ่งเสนอโดย Vitalik เอง กำลังเสนอวิธีใหม่ในการทำให้กระบวนการ Approve, Sign, Execute ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพึ่ง dApp ที่ซับซ้อนหรือใช้ wallet หลายชั้น
นั่นหมายความว่า… user ใหม่จะ onboard ได้ง่ายขึ้น
และ “Web3 for all” จะเข้าใกล้ความจริง
✅ 2. การเพิ่ม Gas Limit เพื่อ scale L1
Ethereum มีแนวโน้มจะเพิ่ม gas limit เพื่อให้ L1 รองรับธุรกรรมมากขึ้นในแต่ละ block
แม้จะไม่ใช่ “การ scale แบบใหม่” แต่ก็ถือว่าเป็นทางลัดระยะสั้นที่ทำให้ UX ดีขึ้นชัดเจน

✅ 3. Fusaka: ตัวเร่ง UX บน L2
เทคโนโลยีใหม่อย่าง Fusaka ถูกออกแบบมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายและทำให้ UX ของ rollup ใกล้เคียงกับ centralized apps
หากสำเร็จ Fusaka อาจทำให้ L2 เหมือนกับ “Web2 ที่ใช้ ETH” เลยทีเดียว
✅ 4. การเร่งสู่ zkEVM โดย L2 ชั้นนำ
Arbitrum, Optimism, Polygon, Scroll ฯลฯ กำลังเร่งพัฒนา zkEVM หรือใช้ zk-proof เพื่อเพิ่มความเร็ว ความปลอดภัย และต้นทุนที่ต่ำลง
แนวโน้มนี้สะท้อนว่า Ethereum ecosystem กำลังเดินหน้าเข้าสู่ “ZK phase”

✅ 5. ราคาปัจจุบัน = แนวรับสำคัญ
ETH กำลังอยู่ใกล้จุดแนวรับสำคัญในกราฟระยะกลาง
และยังคงอยู่เหนือแนว EMA หลัก ๆ
นักลงทุนสถาบันเริ่มมองว่า ETH เป็นโอกาสในราคาที่ “ยังไม่แพง”

✅ 6. Sentiment ต่ำที่สุดในรอบปี
อัตราการพูดถึง Ethereum ในเชิงบวก บน X และในฟอรั่ม crypto อยู่ในจุดต่ำสุดของรอบ 12 เดือน
แต่ในมุมของ smart money:

“ตลาดกระทิงมักเริ่มขึ้นตอนที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย”
✅ 7. Dev alignment เริ่มชัดเจนอีกครั้ง
หลังจากที่ Ethereum มีหลายฝ่ายที่มีเป้าหมายต่างกัน ตอนนี้ดูเหมือนทีม dev และ core contributor เริ่มมีเป้าหมายร่วมชัดเจนมากขึ้นอีกครั้ง

✅ 8. การมาของ Privacy บน Ethereum
Ethereum กำลังวางแผนปรับให้ zero-knowledge + privacy เป็น core component
ความเป็นส่วนตัวของการทำธุรกรรมจะกลายเป็นฟีเจอร์พื้นฐานในอนาคตอันใกล้
✅ 9. Pectra = ปรับปรุง blob throughput
Pectra upgrade (การรวมของ Prague + Electra) จะช่วยเพิ่ม blob throughput อย่างมาก
ซึ่งสำคัญมากสำหรับ L2 เพราะ blob = ข้อมูลธุรกรรม rollup
→ Blob throughput เยอะ = Rollup ใช้ถูกลง = Mass adoption เร็วขึ้น

✅ 10. Narrative “Ultrasound Money” อาจกลับมา
ถ้าความต้องการใช้ Ethereum เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ค่าธรรมเนียมมากขึ้น = เผา ETH มากขึ้น
→ ETH กลับสู่สถานะ deflationary อีกครั้ง

✅ 11. Interoperability ด้วย Open Intent Framework
Open Intent Framework จะเปลี่ยนวิธีการทำ cross-chain และ interaction ระหว่าง dApps
จากการ bridge แบบเดิม → ไปสู่ model ที่ user ใช้คำสั่ง (intent) แล้วระบบจัดการให้
เหมือนใช้แอปเดียว แต่ส่งคำสั่งไปหลาย chain

✅ 12. ความสนใจจากสถาบันที่ยังอยู่ฝั่ง Ethereum
สถาบันที่ต้องการใช้ blockchain ในโลกจริง (Real World Assets, Stablecoins, Digital Bond)
ยังคงมอง Ethereum เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งด้วยเหตุผล:
- ความปลอดภัยสูง
- มีเครื่องมือทางการเงินมากกว่า chain อื่น
- มาตรฐาน ERC ยังเป็นที่นิยมสูงสุด

🎯 บทสรุป
Ethereum กำลังสร้าง “Future-Proof Infrastructure” โดยไม่จำเป็นต้อง hype
แต่หาก narrative กลับมาเมื่อไหร่
ETH อาจกลายเป็นสินทรัพย์ที่ตลาดหันกลับมามองว่า…
นี่คือ Apple หรือ Internet ของยุคคริปโต ก็ว่าได้